Virtual Bank อนาคตธนาคารที่ไร้สาขาเพื่อคนตัวเลือก

ทำความรู้จักธนาคารรูปแบบใหม่ที่ทุกอย่างอยู่ในแอปพลิเคชัน พร้อมเช็กรายชื่อ 3 ผู้ผ่านเกณฑ์จาก ธปท. ที่เตรียมเปิดให้บริการปีหน้า

ในยุคที่ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล แม้แต่ธนาคารที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็กำลังก้าวเข้าสู่มิติใหม่อีกครั้งด้วยการนำธนาคารและบริการทั้งหมดเข้าสู่ดิจิทัลแบบไร้รอยต่อ ไร้ซึ่งสาขา ไร้ซึ่งพนักงานต้อนรับ และแน่นอนว่าก็ต้องไร้ซึ่งการรอคิวที่แสนยาวนานด้วยเช่นกัน รูปแบบธนาคารที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ถูกเรียกอย่างตรงไปตรงมาว่า “ธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank)”  แล้วธนาคารรูปแบบนี้มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง กระทรวงพาณิชย์และธนาคารแห่งประเทศไทยขยับเรื่องนี้แล้วจะดีต่อ “คนตัวเล็ก” จริงหรือไม่ ?

 

รู้จักกับ Virtual Bank

ธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) คือ สถาบันการเงินที่ให้บริการเสมือนธนาคารพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ แต่ไม่มีสาขาจริงในทางกายภาพ (ไม่สามารถเดินทางไปยังสาขาที่เปิดให้บริการได้ เพราะไม่มีอยู่จริง แต่อยู่ในโลกดิจิทัลเท่านั้น) การดำเนินงานทั้งหมด ตั้งแต่การเปิดบัญชี โอนเงิน ชำระบิล ขอสินเชื่อ ไปจนถึงการลงทุน ล้วนเกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน เว็บไซต์ หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ และคงไม่ผิดนักหากจะสรุปสั้นๆ ให้เข้าใจง่ายที่สุดว่า ธนาคารไร้สาขา คือ “ธนาคารออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน”

 

แล้ว Virtual Bank จะต่างจากแอปพลิเคชันของธนาคารพาณิชย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างไร ?

แน่นอนว่าคงต้องย้ำอีกสักครั้งว่าหัวใจสำคัญที่สุดของ Virtual Bank คือการเป็นธนาคารที่ไม่มีสาขา (Physical Branches) ซึ่งนี่คือความแตกต่างที่สำคัญที่สุดของการเป็น Virtual Bank โดยจะไม่เหมือนธนาคารทั่วไปที่มีอาคารสาขาตั้งอยู่ตามที่ต่างๆ ทำให้ลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้อย่างมหาศาล แต่ต้นทุนที่หายไปนั้นก็จะต้องถูกแทนที่ด้วยต้นทุนของเทคโนโลยี เนื่อง Virtual Bank ซึ่งเป็นธนาคารในรูปแบบดิจิทัลจะต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า ประมวลผลธุรกรรม และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ แต่ถึงอย่างไรก็ตามต้นทุนทางด้านเทคโนโลยีเหล่านี้เมื่อเทียบต้นทุนของการมีอาคารใหญ่ๆ พนักงานอีกหลายร้อย หลายพันคนในการบริหารและให้บริการแก่ผู้ใช้บริการนั้น ต้นทุนของเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้ย่อมถูกกว่าอย่างแน่นอน นั้นส่งผลให้ Virtual Bank จะกลายเป็นธนาคารที่มีค่าธรรมเนียมต่ำหรืออาจไม่มีเลย เพราะธนาคารไม่มีต้นทุนค่าเช่าสาขา ค่าพนักงาน และค่าบำรุงรักษาอาคาร ทำให้ Virtual Bank สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ นอกจากนี้ Virtual Bank ยังมีการให้บริการที่ปรับแต่งได้ (Personalized Services) ด้วยการใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ในระบบดิจิทัลที่ผ่านการประมวลผลจาก AI จนสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายได้แม่นยำยิ่งขึ้นและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ Virtual Bank จะไม่มีสาขา แต่ Virtual Bank ก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและเงินของผู้ใช้บริการทุกคนอย่างเข้มงวด นั้นจึงเป็นเหตุผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับความเห็นชอบให้จัดตั้ง Virtual Bank เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 โดยจากผู้ยื่นสมัครทั้งหมด 5 ราย ผ่านการเห็นชอบเพียง 3 รายเท่านั้น ได้แก่

  1. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR)
  2. บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (ธนาคารไทยพาณิชย์) ร่วมกับ WeTechnology Limited (WeBank) จากประเทศจีน และ Kakap Bank Corp. จากประเทศเกาหลีใต้
  3. Ascend Money หรือผู้ให้บริการ TrueMoney จาก CP Group ร่วมกับ Ant Financial จากเครือ Alibaba

โดยหลังการประกาศความเห็นชอบดังกล่าว ผู้ผ่านการเห็นชอบมีระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี สำหรับเตรียมจัดตั้ง Virtual Bank โดยหลังจากเตรียมความพร้อมเสร็จสิ้นผู้ผ่านการเห็นชอบต้องยื่นขอรับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ Virtual Bank ต่อธนาคารแห่งประเทศไทยอีกครั้ง ก่อนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเสนอความเห็นให้กระทรวงการคลังออกใบอนุญาตในการจัดตั้งและให้บริการเป็นลำดับถัดไป ทั้งนี้ Virtual Bank ที่ผ่านขั้นตอนทั้งหมดจะเริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ 19 มิถุนายน 2569 เป็นต้นไป

Virtual Bank, True Money, WeBank. SCB, KTB

แล้ว “คนตัวเล็ก” จะได้ประโยชน์จาก Virtual Bank อย่างไร ?

  1. มีสินเชื่อรายย่อยเพื่อ “SME ตัวเล็ก” และ “คนตัวเล็ก” เพิ่มมากขึ้น เพราะ Virtual Bank เข้ามาช่วยแก้ปัญหาการเข้าไม่ถึงสินเชื่อ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มทางเลือกในการใช้บริการสินเชื่ออย่างหลากหลาย
  2. ได้รับค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารพาณิชย์ทั่วไป เนื่องจากต้นทุนที่ลดลง
  3. ผู้ใช้บริการจะสามารถสร้างวินัยการออมอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย AI สำหรับแนะนำการออมและการใช้จ่าย
  4. สะดวกง่ายและรวดเร็วเมื่อผู้ใช้บริการสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียว พร้อมสร้างประสบการณ์การให้บริการทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้ Virtual Bank เป็นธนาคารที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าธนาคารพาณิชย์ทั่วไป
  5. กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในอุตสาหกรรมการเงิน สร้างทางเลือกและความเป็นธรรมแก่ผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม Virtual Bank ยังคงต้องเผชิญกับปัญหาความหน้าเชื่อถือจากการเป็นธนาคารรูปแบบใหม่ และอาจทำให้เกิดความกังวลแก่ผู้ใช้บริการในเรื่องของความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดังนั้นการรับประกันเงินฝากจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มั่นใจและกล้าที่จะใช้บริการ Virtual Bank ได้อย่างเต็มที่

 

จนถึงตอนนี้เชื่อเหลือเกินว่าผู้อ่านของผมทุกคน คงทราบกันเป็นอย่างดีว่า Virtual Bank จะไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ชั่วคราว แต่คืออนาคตของอุตสาหกรรมการเงินที่จะมอบทั้งความคล่องตัวและประโยชน์อีกมากมายให้แก่ผู้บริโภค การเข้าใจในข้อดีและข้อควรระวังเหล่านี้ จะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมนี้ได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคของการเงินดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ


Tharnkub

2025-06-25 | 04:42:05

25 มิ.ย. 2568 Tharnkub
Back To Top